สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
ประสูติเมื่อวันเสาร์ เดือน 12 แรม 7 ค่ำ
ปีมะเมียสัมฤทธิศก จ.ศ. 1220 ตรงกับวันที่
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2401 ในพระบรมมหาราชวัง
มีพระเชษฐา
พระอนุชาและพระขนิษฐารวมกัน 6
พระองค์
ได้แก่ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย (พระองค์นี้ได้รับพระนามตามบทบาทของเจ้าจอมมารดา) พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ) พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีพระองค์แรกในรัชกาลที่ 5) พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัตน์วิศิษฎ์) เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงได้รับการศึกษาขั้นต้นเขียนอ่านภาษาไทยในสำนักพระองค์เจ้าหญิงมณี และพระองค์เจ้าหญิงกฤษณา ซึ่งเป็นพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ 3 ทรงศึกษาภาษามคธ แล้วเข้าชั้นมัธยมศึกษาในสำนักพระยาปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) ผนวชเป็นสามเณร ไปประทับอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงศึกษาพระธรรมวินัยในสำนักสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเล่าเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนหลวง ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งขึ้นภายในกรมทหารมหาดเล็ก ในพระบรมมหาราชวัง กระทั่งลาผนวช และเข้ารับราชการ สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ทรงบริหารราชการแผ่นดินตลอดพระชนม์ชีพ จากรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ทรงดำรงตำแหน่งไปรเวตสิเกรตารีฝรั่ง (ราชเลขานุการฝ่ายต่างประเทศ) ทำหน้าที่ดูแลงานต่างประเทศ ทรงมีบทบาทสำคัญด้านการทูต เป็นผู้เจรจาข้อพิพาทกับฝรั่งเศส ครั้งวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ทรงเสนอให้มีการตั้งสถานทูตในต่างประเทศ ที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทรงว่าราชการเป็นเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศทั้งในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 เป็นเวลา 37 ปี จนได้ชื่อว่าเป็น องค์บิดาแห่งการต่างประเทศของไทย นอกเหนือจากการงานด้านการต่างประเทศ ได้ทรงงานที่สำคัญตลอดพระชนม์ชีพอีกหลายด้านเช่น ได้ทรงดำรงตำแหน่งนายกสภาการคลังในปี พ.ศ. 2465 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้เป็นอัครมหาเสนาบดี ทรงมีผลงานพระนิพนธ์หนังสือหลายเล่ม นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาเป็นสมเด็จฯ กรมพระยา ซึ่งเป็นชั้นที่สูงสุด นับว่าทรงเป็นเจ้านายชั้นพระองค์เจ้าองค์แรกที่ได้รับพระราชทานให้ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จฯ กรมพระยา เพราะในอดีตมีเพียงแต่เจ้านายชั้นเจ้าฟ้า และสมเด็จพระสังฆราชเจ้าหรือสมเด็จพระมหาสมณเจ้าเท่านั้นที่ทรงได้รับพระราชทาน และรับตำแหน่งมหาอำมาตย์นายก และผู้ดูและพระนครและสำเร็จราชการเมื่อทรงไม่ประทับอยู่ในพระนคร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ทรงสนพระทัยในวิชาโหราศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2432 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศใช้ปฏิทินแบบใหม่ตามสุริยคติตามแบบสากล จากเดิมที่ประเทศไทยใช้แบบจันทรคติ สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ทรงเป็นผู้คิดปฏิทินไทยใช้ตามสุริยคติ เรียกว่า เทวะประติทิน มีการกำหนดชื่อเดือนขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่ใช้ เดือนอ้าย เดือนยี่ ถึงเดือนสิบสอง เป็นชื่อเดือนแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสร้างวังให้สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ บนที่ดินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชื่อว่า วังเทวะเวสม์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 6 เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 8 แรม 1 ค่ำ ปีกุนเบญจศก จ.ศ. 1285 ตรงกับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2466 พระชันษา 66 ปี |