คำว่า
" วิสาขบูชา " หมายถึง
การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ โดยย่อมาจาก
" วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า
" การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
" ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘
สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗
วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ
ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน ซึ่งเกิดขึ้นตรงกัน
คือ
๑. เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ
ที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน เมื่อวันศุกร์
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช
๘๐ ปี
๒. เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้
เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา
ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในวันพุธ ขึ้น ๑๕
ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี
หลังจากออกผนวชได้ ๖ ปี
ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า
พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา
แห่งรัฐพิหารของอินเดีย
๓.
หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา
และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐
พรรษา เสด็จดับขันธปรินิพพาน
เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖
ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์
เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ
(ปัจจุบันอยู่ในเมืองกุสีนคระ
แคว้นอุตตรประเทศ
ประเทศอินเดีย)
.
เมื่อถึงวันสำคัญเช่นนี้
ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์
และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ
พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ
ของพระองค์ท่านผู้เป็นดวงประทีปของโลก
.
ความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย
สมัยสุโขทัยนั้น
ราชสำนักสุโขทัยมีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากกับลังกา
เพราะพระสงฆ์ชาวลังกา
ได้เดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา
และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบูชามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย
ในหนังสือนางนพมาศได้กล่าวบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบูชาสมัยสุโขทัยไว้
พอสรุปใจความได้ว่า
"
เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน
ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน
ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัยทั่วทุก
หมู่บ้านทุกตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด
ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพิเศษ
ด้วยดอกไม้ของหอม
จุดประทีปโคมไฟแลดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร
เป็นการอุทิศบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา ๓
วัน ๓ คืน พระมหากษัตริย์
และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล
และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ
ครั้นตกเวลาเย็น ก็เสด็จพระราชดำเนิน
พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์
และนางสนองพระโอษฐ์
ตลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน
ไปยังพระอารามหลวง
เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน
ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรักษาศีล
ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสังฆทาน
ถวายอาหารบิณฑบาต แด่พระภิกษุ
สามเณรบริจาคทรัพย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน
คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ
บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปล่อยสัตว์ ๔
เท้า ๒ เท้า และเต่า ปลา
เพื่อชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ
โดยเชื่อว่าจะทำให้คนอายุ ยืนยาวต่อไป
"
.
ในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี
ด้วยอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์
เข้าครอบงำประชาชนคนไทย
และมีอิทธิพลสูงกว่าอำนาจของพระพุทธศาสนา
จึงไม่ปรากฎหลักฐานว่า
ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวันวิสาขบูชา
จนมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่
๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๖๐)
ทรงดำริกับ สมเด็จพระสังฆราช (มี)
สำนักวัดราชบูรณะ
มีพระราชประสงค์จะให้ฟื้นฟู
การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่
โดย สมเด็จพระสังฆราช
ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้น
เป็นครั้งแรกในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ
และวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๓๖๐
และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ
เพื่อมีพระประสงค์ให้ประชาชนประกอบการบุญการกุศล
เป็นหนทางเจริญอายุ
และอยู่เย็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย
และอุปัทวันตรายต่างๆ
โดยทั่วหน้ากัน
ฉะนั้น
การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาในประเทศไทย
จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่ ๒
และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
.
การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคทุกสมัย
คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา
พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน "
ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ " ตั้งแต่วันที่
๑๒ ถึง ๑๘ พฤษภาคม รวม ๗ วัน
ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง
ส่วนสถานที่ราชการ และวัดอารามต่างๆ
ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ
ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล ๕ หรือศีล ๘
ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วัน
มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม ๒,๕๐๐ รูป
ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดื่มสุรา
ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๔ พฤษภาคม รวม ๓
วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัดภัตตาหาร
เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รูป
ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ
๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วัน ออกกฏหมาย
สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น
รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับสัตว์ในบริเวณวัด
และหน้าวัดด้วย
และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่
อย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นกรณีพิเศษ
ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย
.
เหตุผลที่
องค์การสหประชาชาติหนดให้ วันวิสาขบูชา
เป็นวันสำคัญของโลก
เนื่องจากคณะกรรมมาธิการองค์การสหประชาชาติ
ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกันประกาศให้วันวิสาขบูชา
ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกทั้งนี้
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล
มนุษย์ทั้งหลายในโลก
จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ
ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย
กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์
ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญ
อีกประการหนึ่งคือ
พระองค์ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้
โดย
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน
ที่มา
: ธรรมะไทย
http://www.dhammathai.org/day/visaka.php